ในทศวรรษที่ผ่านมานับว่าเป็นปีน่าตื่นเต้นของยาลดน้ำหนัก เนื่องจากมีการค้นพบยาฮอร์โมนที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการลดน้ำหนัก ยาเหล่านี้สามารถลดน้ำหนักได้ 10-20% และมีผลข้างเคียงที่ยอมรับได้ เช่นอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือ ท้องผูก แตกต่างจากยาลดความอ้วนในอดีต ที่มักมีผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่นใจสั่น นอนไม่หลับ หัวใจวาย รวมถึงอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้
ตลาดของยาลดน้ำหนักกลุ่มเลียนแบบฮอร์โมนนี้ ได้เติบโตขึ้นอย่างมาก และพลิกโฉมการดูแลคนไข้โรคไม่ติดต่อเรื้อรังไปตลอดกาล เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ใช้ยาเพื่อลดน้ำหนักควบคู่กับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นแนวทางแรก ๆ ที่รักษาตั้งแต่ต้นเหตุ และทำให้อัตราการเสียชีวิตลดลงได้
ยาฉีดลดน้ำหนักทำงานอย่างไร
ยาฉีดลดน้ำหนัก ที่เพิ่งค้นพบนี้แตกต่างจากยาในอดีต เนื่องจากไม่ใช่สารเคมีที่ไปกระตุ้นการทำงานของร่างกาย แต่เป็นการเลียนแบบฮอร์โมนที่ลำไส้ของเราผลิตขึ้นมาเวลากินอาหารฮอร์โมนกลุ่มนี้ชื่อว่ากลุ่ม อินครีติน (incretin) ซึ่งมีฮอร์โมนหลายตัวเช่น GLP-1 และ GIP
ฮอร์โมนเหล่านี้มีฤทธิ์ทำให้อิ่ม หลังจากที่เรารับประทานอาหารโดยออกฤทธิ์ทั้งที่ทางเดินอาหารและสมอง อย่างไรก็ตามฮอร์โมนจากธรรมชาติของร่างกายนั้นออกฤทธิ์เพียงสั้น ๆ ไม่กี่นาทีก็ถูกสลายไป
ยากลุ่มเลียนแบบฮอร์โมน ถูกผลิตขึ้นมาโดยดัดแปลงโครงสร้างให้ออกฤทธิ์ยาวนาน ปัจจุบันมีใช้ในประเทศไทยอยู่ 3 ตัวคือ liraglutide (ซาเซนด้า), semaglutide (โอเซมปิก/วีโกวี่) และ tirzepatide (มอนจาโร) (ข้อมูล ณ วันที่ 24 พฤษภาคม 2568)
Tirzepatide ต่างจากตัวอื่นอย่างไร
ยาฉีดลดน้ำหนักในรุ่นแรก เช่น liraglutide และ semaglutide นั้นมีเป้าหมายอยู่ที่ฮอร์โมน GLP-1 เพียงอย่างเดียว แต่ tirzepatide เป็นโมเลกุลยาที่สามารถออกฤทธิ์เลียนแบบฮอร์โมนทั้ง GLP-1 และ GIP ซึ่งทำให้กลูคากอนหลั่งออกมามากขึ้น มีเส้นเลือดไปเลี้ยงเนื้อเยื่อไขมันมากขึ้นซึ่งอาจมีฤทธิ์สลายไขมัน และมีผลข้างเคียงด้านคลื่นไส้อาเจียนน้อยกว่า GLP-1
ในงานวิจัยเปรียบเทียบ tirzepatide (มอนจาโร) กับยา semaglutide (โอเซมปิก) พบว่า tirzepatide ลดน้ำหนักได้เฉลี่ย 20.2% มากกว่า semaglutide ที่ 13.7% และมีผู้ใช้ tirzepatide ที่ลดน้ำหนักได้มากกว่า 30% ขึ้นไปถึง 19.7%1Aronne LJ, Horn DB, le Roux CW, Ho W, Falcon BL, Valderas EG, Das S, Lee CJ, Glass LC, Senyucel C, Dunn JP; SURMOUNT-5 Trial Investigators. Tirzepatide as compared with semaglutide for the treatment of obesity. N Engl J Med. 2025 May 11. doi:10.1056/NEJMoa2416394.
Tirzepatide มีข้อบ่งใช้อย่างไร
การใช้ยาลดน้ำหนัก ควรใช้เป็นตัวช่วยกรณีที่พยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยปรับอาหารและออกกำลังกาย ภายใต้การดูแลของทีมที่มีประสบการณ์แล้วยังไม่ประสบความสำเร็จ
โดยข้อบ่งชี้ของการใช้ยาลดน้ำหนักคือ เมื่อมีดัชนีมวลกาย (BMI; คำนวณจากน้ำหนักหารด้วยส่วนสูงเป็นเมตรยกกำลังสอง) มากกว่า 30 kg/sq.m. หรือเมื่อมีดัชนีมวลกาย ตั้งแต่ 27 kg/sq.m. ขึ้นไปร่วมกับมีโรคร่วมที่เกิดจากน้ำหนักเกินเช่น โรคเบาหวาน ไขมันพอกตับ เข่าเสื่อมจากน้ำหนักตัวมาก หรือทางเดินหายใจอุดกั้นขณะนอนหลับเป็นต้น
ผลข้างเคียงของ Tirzepatide
ยา tirzepatide อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน ท้องผูก หรือท้องเสีย วิงเวียนศีรษะ หรือเกิดผื่นแดงบริเวณที่ฉีดได้ ผู้ที่ฉีดควรปรับการรับประทานอาหาร เพื่อลดผลข้างเคียงของยาต่อระบบทางเดินอาหาร โดยลดการบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง หลีกเลี่ยงการบริโภคมื้อใหญ่ เมื่อรับประทานอิ่มแล้วควรหยุดทันที เป็นต้น
ข้อควรระวังของยาลดน้ำหนัก
การใช้ยาลดน้ำหนักควรอยู่ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์และนักโภชนาการ เนื่องจากต้องมีการตรวจประเมินสุขภาพ ประวัติโรคประจำตัว การใช้ยาร่วมอื่น ๆ รวมทั้งประเมินข้อบ่งชี้และข้อห้ามก่อนเริ่มยา
เมื่อเริ่มยาไปแล้วต้องมีการติดตามผลข้างเคียงอย่างใกล้ชิดและปรับขนาดยาตามการตอบสนองต่อการรักษาและผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ผู้ที่ลดน้ำหนักต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านการรับประทานและออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพจากยาสูงสุดและลดโอกาสที่น้ำหนักจะกลับมาเพิ่มขึ้นใหม่หลังจากหยุดยา

อายุรแพทย์ สาขาโภชนศาสตร์คลินิก
เชี่ยวชาญด้านโรคอ้วน เมตาบอลิก โภชนาการโรคมะเร็ง และการให้สารอาหารทางเส้นเลือดในผู้ที่การทำงานของลำไส้บกพร่อง